เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราได้กล่าวถึงเรื่องของตลาดการเงินกันไปแล้ว สำหรับสัปดาห์นี้เราขอแนะนำให้ท่านผู้อ่านรู้จักกับอนุพันธ์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures Contract) ว่าคืออะไร นะครับ "อนุพันธ์ หรือ Derivatives" จัดเป็นเครื่องมือสำหรับการลงทุนชนิดหนึ่ง ซึ่งโดยหลักการแล้ว อนุพันธ์เป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีมูลค่าในตัวเอง แต่จะอ้างอิงกับมูลค่าจากสินทรัพย์อื่นแทน อนุพันธ์เป็นที่นิยมในตลาดการเงินของโลก เนื่องจากอนุพันธ์สามารถออกแบบให้มีความหลากหลายได้ตามลักษณะการลงทุน นอกจากนี้มูลค่าของอนุพันธ์นั้นๆ ยังสามารถเชื่อมโยงกับราคาสินทรัพย์มากกว่าหนึ่งชนิดขึ้นไป หรือ สินทรัพย์ต่างประเภท หรือ เชื่อมโยงกับมูลค่าของอนุพันธ์ด้วยกันเองก็ได้
สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures Contract) เป็นอนุพันธ์ที่ค่อนข้างเรียบง่าย และมีการซื้อขายกันอย่างแพร่หลายในตลาดล่วงหน้าทั่วโลก โดยมูลค่าของ Futures นั้น จะมีค่าเท่ากับราคาของทรัพย์สินอ้างอิง ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต เราสามารถแบ่งสัญญา Futures ออกเป็นกลุ่มตามสินทรัพย์ที่ใช้อ้างอิง (Underlying) และในแต่ละกลุ่มยังสามารถแบ่งได้เป็น Series ตามวันหมดอายุของสัญญา (Maturity Date) ตัวอย่างเช่น Futures น้ำมัน NYMEX ส่งมอบเดือนมีนาคม 2551 เป็นต้น มูลค่าของสัญญา Futures มักจะเคลื่อนไหวคู่ขนานไปกับราคาที่ใช้ซื้อขายสินทรัพย์ในปัจจุบัน เนื่องจากนักลงทุนทั่วไปจะใช้ราคาในปัจจุบัน ประกอบกับการคาดการณ์แนวโน้มอุปสงค์-อุปทานของสินทรัพย์นั้นๆ เป็นพื้นฐานสำหรับการวิเคราะห์ราคา
ในการซื้อขายสัญญา Futures ใน Series หนึ่งๆ จะต้องมีผู้เสนอราคาซื้อ (Long Side) และผู้เสนอราคาขาย (Short Side) หากผู้ซื้อและผู้ขายสามารถตกลงราคาที่สองฝ่ายพอใจก็จะเกิดสัญญา Futures ขึ้น ซึ่งตราบใด ที่ผู้ซื้อ และผู้ขาย ยังมีความต้องการที่จะซื้อขาย ปริมาณการเกิดของสัญญานั้นก็สามารถมีได้ไม่จำกัดจำนวน ผิดกับตลาดหลักทรัพย์ซึ่งมีจำนวนหุ้นเท่ากับที่ได้จดทะเบียนไว้ ทั้งนี้ท่านผู้อ่านจะสามารถดูจำนวนสัญญา Futures ที่เปิดอยู่ในตลาดทั้งหมด ได้จากข้อมูล สถานะคงค้าง หรือ Open Interest (OI) ครับ
ผลตอบแทนที่เกิดจากการซื้อขายสัญญา Futures นั้น จะเกิดขึ้นเมื่อราคาของสัญญา Futures เปลี่ยนแปลงไปจากราคาที่นักลงทุนเข้ามาเปิดสัญญา โดยนักลงทุนที่เข้ามาถือสถานะซื้อล่วงหน้า (Long Position) จะมีผลตอบแทนเมื่อราคา Futures ปรับตัวสูงขึ้น ในทางกลับกันนักลงทุนที่เข้ามาถือสถานะขายล่วงหน้า (Short Position) จะแสวงหาผลตอบแทนจากราคา Futures ที่ปรับตัวลดลง
ในประเทศไทย มีตลาดซื้อขายสัญญา Futures หรือ ที่เรียกกันว่าตลาดล่วงหน้าอยู่สองตลาดด้วยกัน ได้แก่
1. ตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX) เป็นศูนย์กลางในการซื้อขาย Futures ที่อิงมูลค่าจากตัวเลขดัชนี SET50 นักลงทุนจะสามารถเข้ามาใช้ SET50 Index Futures เป็นช่องทางทำกำไรได้ตลอดเวลาไม่ว่าตลาดหุ้นจะเคลื่อนไหวอยู่ในแนวบวกหรือแนวลบ หรือจะใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงแก่หลักทรัพย์ที่ตนเองถืออยู่ก็ได้
2. ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) เป็นศูนย์กลางในการซื้อขาย Futures ที่อ้างอิงมูลค่าจากราคาสินค้าเกษตรประเภทต่างๆ ได้แก่ ยางพารา ข้าว และมันสำปะหลัง ซึ่งนอกจากนักลงทุนจะเข้ามาแสวงหาผลกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าแล้ว การลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าด้านสินค้าเกษตรในตลาด AFET ยังเป็นเพียงช่องทางเดียวที่นักลงทุนในประเทศจะสามารถลงทุนในสินทรัพย์ Commodities ได้ โดยไม่ต้องทำธุรกิจค้าขายในสินค้านั้นๆ ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจค้าขายสินค้าเกษตรก็สามารถเข้ามาใช้ Futures เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาสินค้านั้นๆ ได้อีกด้วย
www.afet.or.th หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน 23 มกราคม 2551